ช่วงนี้มีคนแชร์ข่าวคดี ข่มขืนและฆ่า เด็กหญิงวัย 13 ปี เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งหากใครยังไม่รู้เรื่องก็ลองตามไปอ่านได้ที่ ไทยรัฐ
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในสังคมไทย และสังคมโลก และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า เรามีทางป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำอีกได้หรือไม่…
แต่ดูเหมือนว่ากระแสสังคมไทยตอนนี้ จะมีการเรียกร้องให้แก้ไขกฏหมาย เอาผิดผู้กระทำ ให้มีโทษประหารชีวิต หรือไม่ก็ตัดอวัยวะเพศ กระแสนี้มีตั้งแต่ระดับเกรียนคีย์บอร์ด ไปถึง ดารา เซเลบต่างๆ ออกมาเรียกร้อง มีการรวมสำเนาบัตรประชาชน หรือร่วมลงชื่อแก้ไขกฏหมายกันเลยทีเดียว
แต่อยากให้ใจเย็นๆแล้วลองคิดดูดีๆว่าสิ่งที่เรียกร้องให้มีการประหารชีวิตกับผู้กระทำผิดนั้น มีแก้ไขปัญหาได้จริงๆหรือไม่? เพราะหากแก้ไขได้ ทำไมก่อนที่ไทยจะยกเลิกโทษประหารชีวิต ก็ยังมีเหตุการ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เช่นเดียวกัน?
เห็นมั้ยว่าหากแก้ไขได้ เราไม่น่าจะได้เจอข่าวแบบนี้อีกแล้ว…
การแสดงออกในการสนับสนุนโทษประหารชีวิต เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดีเพราะ การที่เราออกมาสนับสนุนให้มีการลงโทษแบบนั้น เราได้มองย้อนกลับไปหรือคิดเผื่อในอนาคตแล้วหรือยังว่าหากท้ายที่สุดแล้ว คดีเกิดพลิก และคนที่ถูกประหารชีวิตไปแล้วคือแพะ จะทำอย่างไร เราจะทดแทนครอบครัวของคนที่ถูกประหารผิดตัวด้วยอะไรได้
เพราะเรื่องของการจับผิดคน และแพะก็มีอยู่จริงๆ มันไม่ใช่สรรพนามที่เอาไว้เรียกในละคร แต่มันมีอยู่จริง และเกิดขึ้นมาแล้วในไทย ทั้งคดีเล็กและคดีใหญ่ที่มีคนทั้งประเทศให้ความสนใจก็เกิดความผิดพลาดได้
แม้ผู้ต้องหาจะสารภาพในเบื้องต้น ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำก็เป็นได้ เพราะชีวิตคนเรามีเหตุผลในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน อย่าเอาแค่เพียงทัศนะคติต่อโลกของเราเป็นกรอบทัศนะความคิดของคนอื่นๆไปด้วย และตัดสินด้วยขอบจริยะธรรมของเราเพียงคนเดียว
การที่แสดงความคิดเห็นแบบนี้ไม่ได้จะปกป้องฆาตกรนะ แต่คิดว่าการออกมาเรียกร้องให้ประหารชีวิตผู้กระทำผิดมันถูกต้องแล้วหรือ? เพราะเค้าฆ่าคนอื่น เราก็เลยต้องฆ่าเขาเช่นกันใช่หรือไม่? จริงอยู่ ที่เค้าได้ทำความผิดทั้งทางกฏหมาย และศีลธรรม อีกทั้งยังทำลายความรู้สึกผู้อื่น ในขณะเดียวกัน แต่การตอบฆาตกรด้วยการฆาตกรรม ทำให้เราแตกต่างจากเค้าตรงไหน เค้าทำเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของเค้า เราจึงต้องกระทำเพราะเราอยากให้บรรลุจุดประสงค์ของเรางั้นหรือ? เค้าลงมือเพราะต้องการให้เหยื่อตาย เราเองก็ทำกิจกรรมเพื่อทำให้เค้าตาย เราแตกต่างจากเค้าตรงไหน หากเราตราหน้าเค้าว่าฆาตกร แล้วเราหล่ะเป็นอะไร เป็นคนดี อย่างงั้นหรอ?
คนดีต้องฆ่าผู้ร้ายงั้นหรอ?
ตอนแรกที่ผมได้อ่านข่าว ผมตั้งคำถามขึ้นมาในหัวว่านี่เรามีความปลอดภัยในชีวิตมากน้อยแค่ไหน ครอบครัวเรา คนที่เรารู้จัก ใช้ชีวิตบนความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
แต่พอเริ่มเห็นกระแสให้มีการประหาร ทำให้ความคิดผมที่เคยคิดว่ารู้จักสังคมไทยมากพอ?ต้องคิดใหม่ และคิดให้มากๆด้วย อะไรกันแน่ที่พาสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ เดินทางมาอยู่ที่จุดนี้ได้ มาอยู่ในจุดที่หลายๆคนคิดว่า การปลิดชีวิตใครสักคนเป็นเรื่องที่ชอบธรรม ยอมรับได้
เราบอกว่าประเทศของเราคือเมืองพุทธ ไม่ยอมให้มีบ่อนถูกกฏหมาย ไม่ยอมให้มีการขายบริการทางเพศที่ถูกกฏหมาย ประเทศเรารับไม่ได้กับเรื่องที่ผิดศีลธรรม แต่วันนี้เรายอมรับได้ที่จะ “ฆ่า” ใครสักคนที่ทำผิด
บอกตรงๆผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมประเทศของเราถึงมีความย้อนแย้ง และสุดโต่งขนาดนี้
เพราะความยุติธรรมไงครับ 1ชีวิตแลก1ชีวิต เป็นกฎที่ตายตัวทางคณิตศาสตร์ เหมือน 1-1=0 ที่สังคมวุ่นวายแบบนี้เพราะคนชอบหาเหตุผลว่าอะไรคือคำตอบ ชอบนำอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง มากกว่าความยุติธรรม คุกถึงได้ล้นแบบทุกวันนี้ไง ชอบอ้างว่าทุกคนมีสิทธิผิดพลาด แต่สิ่งที่ผิดพลาดดันโคตรใหญ่หลวงกับชีวิตคนอื่นเลยนะครับ และชอบเอาเอาอารมณ์ความรู้สึกมาปนกันมั่วไปหมด สงสารไปทั่ว ผมแนะนำคุณให้คิดเหมือนตัวเลข 1-1=0 เถอะครับความยุติธรรมจะได้เกิดขึ้นในใจคุณ