29 พฤษภาคม 2558 ไม่สิต้องเป็น 30 พฤษภาคม 2558 พวกเราไปถึงสนามบิน เดืองมอง ดองเมือง เพื่อเดินทางไปยัง ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยสายบิน Airasia X เที่ยวบินที่ XJ 700 ก็คือเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ 29 ดังนั้นถือเอาวันนี้เป็นฤกษ์งามยามดี

ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองเวลา 01.55 น. และถึงสนามบิน ?????? อ่านว่า อิน ชอน กุ๊ก เจ คง ฮัง ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อนประเทศเกาเหลาใต้ เย้ย เกาหลีใต้เวลา 09.10 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง กับอีก 15 หรือ 20 นาทีโดยประมาณ เวลาไทยจะช้าเกาหลีใต้ 2 ชั่วโมง ไทย GMT+7 เกาหลี GMT+9

?????? อ่านว่า อิน ชอน กุ๊ก เจ คง ฮัง ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อนประเทศเกาเหลาใต้

เมื่อเดินทางมาถึง ซึ่งยังเป็นเวลาค่อนข้างเช้า ทำให้คณะทัวร์ไทยที่เดินทางมาถึงเวลานี้มักจะล้างหน้าแปรงฟันกันที่สนามบิน และท่องเที่ยวในวันแรกทันที ซึ่งการผ่าน ตม. หรือตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีไม่ได้น่ากลัวและยากอย่างที่หลายๆคนกังวล เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆว่ามีการส่งคนไทยกลับประเทศบ่อยครั้งเพราะสงสัยว่าคนคนนั้นอาจจะทำการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ซึ่งจากที่ได้ไปสัมผัสมา เกาหลีใต้ไม่ได้น่าอยู่ น่าทำงานไปกว่าไทยมากนัก แล้วรู้หรือไม่ปัจจุบัน การฆ่าตัวตายจากความเครียด เกาหลีใต้แซงญี่ปุ่นไปเรียบร้อยโรงเรียน EXO แล้ว แม้บ้านเมืองจะเจริญ อากาศเย็นสบาย แต่ใบหน้าของชาวเกาหลีไม่ได้แสดงออกถึงความสุขมาทางสีหน้ามากนัก

1st DAY

ที่แรกที่เราไปคือเกาะนามิ

เกาะนี้ไม่มี Banana Boat ไม่มีเต๊น ไม่มีสายไหมมาขาย ไม่มีม้าให้ขี่เล่น ไม่มีคนใส่ Bikini ไม่มีข้าวเกรียบ แต่ที่นี่มี “พี่ชาย” หรือที่ในภาษาเกาหลีเรียกคือ ???อ๊บป้า ถ้าคนที่ไม่เคยรู้เลยว่า นามิคืออะไร นามิไม่ใช่ตัวละครใน วันพีช และไม่ใช่ขนมที่รวยเพื่อน รู้แค่ว่านามิคือเกาะคุณอาจจะคิดแบบนี้

ขอบอกเลยมันไม่ใช่?เกาะนามิ เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากโซลไปทางตะวันออก 63 กิโลเมตร เชื่อเถอะไปวัดมาแล้วกับมือ ซึ่งเกาะนี้เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ที่เกิดจากการสร้างเขื่อนช็องพย็อง และมีชื่อเสียงโด่งดังจากการใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เพลงรักในสายลมหนาว?Winter Sonata ฟังเพลงจากในคลิปนี้แล้วอาจจะคุ้นหูอยู่บ้าง

ถือว่าเป็นการสร้างสถานที่ ที่อาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลย กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ชนิดที่ว่าหากทัวร์ไทยกรุ๊ปไหนไม่ได้ไปอาจจะถือว่าไปไม่ถึงเกาหลีกันเลยทีเดียว

การเดินทางมาที่เกาะนี้ ต้องข้ามฝั่งด้วยเรือข้ามฟาก ใช้เวลาแค่แป๊ปเดียวก็มาถึงแล้ว และเกาะนี้มีทางเดินให้เดินชัดเจน ไม่หลงแน่นอน เดินไปเรื่อยๆได้เลย และตลอดระหว่างทางก็สามารถแวะถ่ายรูปไปได้เรื่อยๆตราบเท่าที่มีเวลา

ในวันที่เราไป เกาะนามิมีการจัดนิทรรศการอะไรสักอย่าง และจากการสำรวจบริเวณรอบๆ ก็สังเกตุพบว่านอกจากที่นี่จะเป็นที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นพื้นที่ให้มีการทำกิจกรรมต่างๆได้อีกด้วย

ดูเหมือนจะเป็นนักษัตร หรืออะไรสักอย่าง

กำลังซ้อมร้องเพลง จัดบล็อคกิ้ง เป็นการร้องประสานเสียงกับเปียโน

มียูนิเซฟซะด้วย

สีธงชาติในภาพด้านหลังคุ้นๆ มั้ย? คนเกาหลีมาตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือเด็กๆที่อยู่ห่างไกลของไทย ในที่ที่มีนักท่องเที่ยวไทยมากมาย แต่แทบจะไม่มีใครเข้าไปดูเลย

ตารางกิจกรรมเค้าหล่ะ เห็นมีคอนเสิร์ต การทำเวิร์คช็อป ตลาดนัด เยอะแยะเชียว สร้างสีสันให้กับเกาะนี้มากขึ้นไปอีก

และระหว่างทางเดินก็พบว่ามีคนขายซาลาเปาอยู่ ซึ่งลองซื้อมาชิมขาเดินกลับออกมา เป็นซาลาเปาใส้ถั่ว จำไม่ได้ว่าถั่วเหลือง หรือถั่วแดงบด แต่ที่แน่ๆหวานมาก ไม่ประทับใจ แค่ถือว่าพอกินได้และหาได้ตามหน้างานวัดแถวบ้านเรา ถ้าจำไม่ผิด สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1000 วอน (100 วอนประมาณ 3 บาท) หรือ 30 บาท ถือว่าแพงเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าไหนๆก็มาต่างแดนลองชิมจะได้รู้ไว้??

คนมุงเยอะเชียว

วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยมาต่อ สำหรับวันนี้ขอจบด้วย “ประโยคแซ่บ?แคปให้ด้วย”

ไม่ชินจริงๆ 555