ภาพยนตร์ญี่ปุ่น “KIMI NO SUIZO WO TABETAI” เปิดเผยชื่อไทยออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อว่า “ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ” เพื่อสื่อถึงเรื่องราวของ Kimi no Suizou wo Tabetai หรือชื่อภาษาอังกฤษ Let me eat your Pancreas คือภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยาย ไลท์ โนเวล เขียนบทโดยผู้เขียนบทภาพยนตร์ Tomorrow I will Date with Yesterday’s You

KIMI NO SUIZO WO TABETAI เปิดตัวในญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำรายได้เปิดตัวสูงกว่าภาพยนตร์รักเรียกน้ำตา 2 เรื่องดัง Tomorrow I will Date with Yesterday’s You และ The 100th love with you ที่เข้าฉายในไทยไปเมื่อต้นปี

Kimi no Suizou wo Tabetai (คิมิโน ซุยโซ โว ทาเบตัย) เล่าเรื่องราวของ ยามากูจิ ซากุระ สาวสวยขวัญใจหนุ่ม ๆ ในโรงเรียนมัธยม และ เด็กหนุ่มหนอนหนังสือผู้ไม่สนใจโลก ทั้งคู่เป็นคณะกรรมการห้องสมุด

ซากุระมีนิสัยชอบเขียนบันทึก แล้วนำไปวางซ่อนไว้ตามชั้นหนังสือ วันหนึ่งเด็กหนุ่มเจอสมุดบันทึกที่เขียนว่า “ฉันกำลังจะตายในไม่กี่ปีต่อจากนี้” เขาสืบจนรู้ว่าซากุระป่วยด้วยโรคตับอ่อน หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับเธอ ซากุระชอบเล่าว่าเธอเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งว่า คนสมัยโบราณเชื่อว่าถ้าอวัยวะส่วนไหนอ่อนแอให้กินอวัยวะชนิดนั้นแล้วร่างกายจะแข็งแรงขึ้น แต่ตอนนี้หาหนังสือเล่มนั้นไม่เจอแล้ว เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจหนังสือเล่มนั้นมากนัก จนซากุระป่วยเข้าโรงพยาบาล

12 ปีต่อมา เขาได้กลับมาเป็นครูที่โรงเรียนเก่า และรับหน้าที่ดูแลห้องสมุด ที่นั่นเขาพบความลับบางอย่าง ความลับของหญิงสาวที่อยู่ในหัวใจของเขามาตลอด 12 ปี ความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในบันทึกที่มีชื่อว่า Let me eat your Pancreas ตับอ่อนของเธอ ขอฉันเถอะนะ

รีวิว

ตอนแรกเห็นชื่อแปลกๆ ก็เลยดองไว้ซะนาน จนเกือบลืมไปแล้ว แล้วรู้สึกเหมือนเห็น ตัวอย่างใน Youtube อีกทีเลยจำได้ ก็เลยหยิบมาดูซะหน่อย

ซึ่งตัวหนัง เป็นแนวรักโรแมนติก ใสๆ วัยรุ่น ของญี่ปุ่นในวัยมัธยมปลาย คือสำหรับเราตัวหนังไม่ได้เศร้าอะไร ขนาดร้องไห้ขี้มูกโป่งนะ แต่เป็นแนวรักแบบอบอุ่นมากกว่า คือดูแล้วอบอุ่นใจ

หรือเราไม่อินก็ไม่รู้นะ เพราะว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไร แม้ตัวหนังจะวางตำแหน่งไว้ว่าหนังรัก เศร้า เคล้าน้ำตา

สิ่งที่ชอบคือ ภาพสวย โลเคชั่นสวย ตัวละครนำชายมีเสน่ห์

สิ่งที่ค่อนข้างขัดความรู้สึกไปนิดๆคือ ตัวนางเอก ดูสดใสเกินไปนิดนึง คือมันมีความ สดใส จนทำให้รู้ว่า อีนี่มันแอ๊บป่ะวะ เพราะบางการกระทำ ในหนังก็ดูค่อนข้างแรง หรือว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่น เค้าไม่ถือ อะไรแบบนี้

แต่เอาเถอะ ใครชอบหนังรักก็ควรดู แต่ส่วนตัวไม่แนะนำให้คนรอบข้างดูเท่าไหร่ เพราะไม่น่าจะเข้าถึงได้ทุกคน

Source : prachachat.net