“สายตาแห่งอคติ (When They See Us)” สร้างจากเรื่องจริงที่สะเทือนใจไปทั้งประเทศ ตีแผ่คดีจับกุมวัยรุ่นหลากผิวสีที่เรียกกันว่า “เซ็นทรัลพาร์คไฟฟ์” ซึ่งถูกตัดสินคดีข่มขืนที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ลิมิเต็ดซีรีส์ 4 ภาคเรื่องนี้จะมุ่งประเด็นไปที่กลุ่มวัยรุ่น 5 คนจากฮาร์เล็ม ประกอบไปด้วยแอนทรอน แม็คเครย์, เควิน ริชาร์ดสัน, ยูเซฟ ซาลาม, เรย์มอนด์ ซานแทนา และคอรี่ย์ ไวส์ เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1989 เมื่อวัยรุ่นกลุ่มนี้ถูกนำตัวไปสอบสวนคดี และดำเนินเรื่องต่อไปอีก 25 ปีจนถึงการพ้นความผิดในปี 2002 และการระงับคดีในนครนิวยอร์กปี 2014

“สายตาแห่งอคติ” เป็นผลงานของเอวา ดูเวอร์เนย์ในการสร้าง ร่วมเขียนบท และกำกับการแสดง 4 ภาค โดยมีเจฟฟ์ สโคลและโจนาธาน คิงจาก Participant Media โอปราห์ วินฟรีย์จาก Harpo Films และเจน โรเซนธัลและแบร์รี เวลช์จาก Tribeca Productions ขึ้นแท่นอำนวยการผลิตร่วมผ่าน Forward Movement ของเอวา นอกจากนี้ แอตทิกา ล็อค, โรบิน สวิคอร์ด และไมเคิล สตาร์เบอร์รียังร่วมเขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

ซีรีส์เรื่องนี้แสดงโดยไมเคิล เค. วิลเลียมส์ (เข้าชิงรางวัลเอมมี) เวรา ฟาร์มิกา (เข้าชิงรางวัลออสการ์) จอห์น เลอกิซาโม่ (เจ้าของรางวัลเอมมี) เฟลิซิตี้ ฮัฟฟ์แมน (เข้าชิงรางวัลออสการ์และได้รับรางวัลเอมมี) นีซี่ แนช (เข้าชิงรางวัลเอมมี) แบลร์ อันเดอร์วูด (เจ้าของรางวัลเอมมีและเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง) คริสโตเฟอร์ แจ็คสัน (เจ้าของรางวัลเอมมี รางวัลแกรมมี และรางวัลโทนี) ร่วมด้วยโจชัว แจ็คสัน, โอมาร์ ดอร์ซีย์, อาเดเปโร โอดูเย, แฟมเก้ แยนส์สัน, ออโรรา เพอร์รีนิว, วิลเลียม แซดเลอร์, จาร์เรล เจอโรม, โจแวน อาเดโป, อันจานิว เอลลิส, ไคลี่ บันเบอรี, มาร์ชา สเตฟานี เบลค, สตอร์ม รีด, คริส ชอล์ก, เฟรดดี้ ไมยาเรส, จัสติน คันนิงแฮม, อีธาน เฮริส, คาลีล แฮริส, มาร์คิส โรดริเกซ และอซานเต้ แบล็คค์ Netflix Thailand

รีวิว

ซีรีส์เรื่องนี้ เป็นซีรีย์ที่แสดงความแตกต่างของคำว่าพลเมืองชั้นสองได้อย่างชัดเจน การถูกเลือกปฏิบัติ การถูกมองข้าม การมองบุคคลอื่นด้วยสายตาแห่งอคติ

ตลอด 4 ตอน บอกเลยว่าสะเทือนอารมณ์มาก เพราะมันสะท้อนกลับมาหาเราชนิดที่ว่า เอาจริงๆมันใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดนะเรื่องแบบนี้อะ แค่คุณเป็นพลเมืองชั้นสองที่สังคมพร้อมจะมองคุณในแง่ลบ ดันไปอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่ และเวลาไม่เหมาะสม คุณอาจจะกลายเป็นคนผิดโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้

ด้วยเหตุการณ์ในตัวซีรีย์ทำให้เรา คิดกลับมาประเทศไทยที่ล่าสุด เพิ่มโทษคดี “ข่มขืน” สูงสุดเป็นประหารชีวิต ว่าเห้ยถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยล่ะ ในตอนที่เรามี พระราชกิจจานุเบกษาอันใหม่นี้แล้วด้วยนะ เรื่องนี้จะจบลงยังไง คือในซีรีย์ผู้ถูกกล่าวหา ยังมีชีวิตไง

แต่ในไทยที่กระบวนการยุติธรรม มีความเที่ยงตรงพอๆกับการซื้อหวย ใครจะรับผิดชอบหากประหารชีวิต ผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว?

อันนี้ยังไม่พูดถึงชีวิตของพวกเค้าที่แทบจะพังทลาย ตลอดช่วงที่ถูกตราหน้าว่าอาชญากร

ในเรื่องสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อคนในครอบครัวคุณติดคุก หรือต้องโทษ ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในคุกเท่านั้นที่ต้องทนทุกข์ทรมาน

ใครอยากจะให้ครอบครัวที่บ่มเลี้ยงอาชญากรร่วมงานด้วย? ใครอยากจะสมาคมกับครอบครัวอาชญากร?

และที่โคตรตลกร้ายเอามากๆคือ คนที่ใส่ร้ายพวกเค้าคือ กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าผู้รักษากฎหมาย ผู้รักษาความยุติธรรม

เรื่องนี้เหมาะกับประเทสไทยมากๆ อยากให้ทุกๆคนได้ดู เราจะเห็นว่าความเท่าเทียมกันของมนุษญ์สำคัญแค่ไหน